หลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน ทันทีที่ถึงห้องนอนพวกเราส่วนใหญ่ก็มักจะทิ้งตัวลงใส่เตียงแทบจะในทันที เสมือนมันเป็นปุยเมฆที่พาให้เราล่องลอยไปในความฝัน ยิ่งถ้าวันไหนมีงานหนักๆ ลองสังเกตได้เลยว่าเราจะยิ่งหลับลึกกว่าวันอื่นๆ แต่พอหลับได้ไม่เท่าไหร่ ไม่ถึงอึดใจด้วยซ้ำ นาฬิกาเจ้ากรรมก็ร้องดังเสียแล้ว เราก็ต้องลากสังขารตัวเองให้ลุกขึ้นจากการหลับใหล แต่งตัวไปทำงานอีกวัน แต่ถ้าใครโชคดีหน่อยมีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ก็นอนตื่นสายๆ ไปได้เลย แต่ถ้าหากใครมีวันหยุดแค่วันเดียวก็ต้องทนกันต่อไป
แต่พอวันหยุดยาวมาถึงกลับนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี?
สถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมที่สุดเลยก็คงหนีไม่พ้น ทะเล ชายหาด สายลมและสองเรา (ไม่ใช่แล้ว) จากการวิจัยของหลายๆ สำนัก มักจะให้คะแนนไปในทางเดียวกันว่า ทะเลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ อยู่เสมอ เพราะอะไร เพราะการที่เราได้ไปนั่งฟังเสียงคลื่นซัดชายหาด ตูม… ตูม… เบาๆ มันทำให้สดชื่นได้อย่างน่าประหลาด แถมสายลมที่โชยมาก็พัดพากลิ่นน้ำทะเลให้หอมชื่นใจ เขาว่ากันว่าหากเหนื่อยล้าก็ควรจะไปนั่งริมชายหาดเพื่อเรียกพลังของเรากลับมา เราจะพบว่าหลังจากการเที่ยวทะเลแล้ว เราจะสดใสขึ้นเป็นกอง
โดยเฉพาะภาคใต้นั้น อย่างที่รู้กันว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสวยๆ มากมายหลายแห่ง ทั้งสงบอีกทั้งยังเป็นส่วนตัวสุดๆ แต่หลายคนมักจะคิดว่า การไปทะเลต้องไปเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น บอกเลยว่าผิด! ความจริงแล้วทะเลไทยไปได้ทุกฤดู เพียงแค่เราต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลาก็เท่านั้น ยกตัวอย่าง ในเดือนพฤษภาคม ฤดูฝนที่หลายคนไม่ค่อยถูกโฉลกนัก แนะนำให้ไปที่ เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เกาะเต่า เป็นต้น
อ้าว! อยู่กรุงเทพ ไปเที่ยวทะเลที่ไหนดี ไม่อยากไปไกล ตอบเลยค่ะ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ แม้ว่าจะไม่มีชายหาดแบบเม็ดทรายนุ่มฝ่าเท้า แต่การที่ได้ไปสัมผัสบรรยาย เดินเล่นริมน้ำหรือว่านั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ก็ทำให้สดชื่นได้ไม่แพ้ทะเลจริง และสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจ สวนสยามก็ยังมีเครื่องเล่น ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยักษ์ตกตึก (giant drop) เป็นเครื่องเล่นที่ให้เรานั่งบนเก้าอี้แล้วจะพาขึ้นไปยังยอดที่สูงที่สุด ความสูงอยู่ที่ประมาณ 75 เมตรเลยทีเดียว จากนั้นก็จะปล่อยเราลงมา เป็นช่วงเวลาที่ตื้นเต้นและหวาดเสียวเป็นที่สุด หรือว่าจะเป็น บูมเมอแรง (Boomerang) รถไฟเหาะตีลังกา ที่วิ่งด้วยความเร็วถึง 80 กม./ชม. และตีลังกาด้วยกันถึง 6 รอบ เป็นต้น
บางคนอาจจะบอกไม่เอา! ไม่ชอบทะเล ไม่อยากเปียก ไม่อยากเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว
ภูเขาก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกทางเลือกหนึ่ง การปีนเขาเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เราจะเห็นได้บ่อยๆ ว่าชาวต่างชาตินั้นจะชอบไปปีนยอดเขานั้นยอดเขานี้กันอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับมือใหม่อย่างเรายังไม่ต้องถึงขนาดนั้น เพราะเดี๋ยวนี้เขามี หน้าผาจำลองให้ไปลองปีนกันก่อนได้ อย่างในกรุงเทพก็จะมีที่ Rock Domain Climbing Gym บางนา – ตราด ก.ม.6 หนึ่งวัน 400 บาท และที่นี่ก็ยังเป็นหน้าผาจำลองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย มีการวิจัยอย่างหนึ่งว่า การปีนผาไม่เพียงจะช่วยให้แข็งแรงขึ้นแล้วยังช่วยเสริมสร้างสมาธิได้พอๆ กับการดำน้ำอีกด้วย
อาจจะมีบางคนบอกอีกว่า ไม่เอา! ไม่อยากปีนผา กลัวเหนื่อย ถ้าเช่นนั้นแนะนำเปลี่ยนมาเป็นเที่ยวดอยแทน ทั้งได้ชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงนกเสียงใบไม้ การเที่ยวดอยที่นิยมกันอย่างมากเลยก็คือการดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและการดูพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น จะเวลาไหนก็สวยไม่แพ้กัน แต่ถ้าหากไม่มีเวลาเช้าตรู่หรือพลบค่ำ อาจจะไปเที่ยววัดเพื่อไหว้พระ ทำบุญ เช่นดอยสุเทพเป็นต้น อีกทั้งสถานที่บางแห่งอาจจะมีน้ำตกให้เราได้ลงเล่นอีกด้วย
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวไหนๆ ก็ควรเลือกที่สบายทั้งใจ สบายทั้งกระเป๋าเงิน ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเครียดถ้าเงินไม่พอใช้นะคะ